ในช่วงหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ ผมสนุกกับกิจกรรมการช็อปในกรุงเทพฯเป็นอันมาก ผมซื้อของมาเยอะมากเลยครับ และเชื่อหรือไม่ว่าเงินที่ผมควักออกจากกระเป๋าสตางค์ไปเนี่ย ประมาณ 10% ของราคาสินค้าชิ้นเดียวกันที่ผมจะหาซื้อได้ในอังกฤษ หรือแม้แต่ในห้างหรูอย่างพารากอนและเอ็มโพเรียมเลยล่ะครับ! ให้ผมซื้อของเพิ่มอีก 10 เท่า อารมณ์อยากช็อปของผมก็คงยังไม่สิ้นสุด ก็เพราะผมง่วนอยู่กับการเดินซอกแซก สอดส่องมองหาสินค้าที่น่าสนใจในตลาดนัดจตุจักรนะสิครับ ถามได้ คุณก็น่าจะรู้ดีนี่นาว่าจตุจักรคือสวรรค์ของนักช็อปงานฝีมืออย่างผมเลย
Over the past week I have enjoyed a mini-spending spree in Bangkok . I bought so many things and you know what? It cost me 10% of what I would have paid in England or indeed, the Emporium or Paragon. And I could have bought ten times as much stuff and still been in the mood to buy more. Why? Well because I spent my time mooching around Chatuchak. And it really is heaven for the handicraft shopper like me.
ไม่ใช่เพียงราคาหรอกนะครับที่ทำให้ผมน้ำลายไหลและอยากได้อีก แต่สินค้าที่ได้มาในราคาดีๆแบบนี้นะสิ ซึ่งก็คือสินค้าหัตถกรรมประเภทต่างๆ ที่ทำให้ผมตกแต่งบ้านอังกฤษในสไตล์ไทยๆได้นั่นไง ที่ทำให้ผมอยากซื้ออยากได้ไปหมด ฝรั่งจำนวนมากที่ได้มาเที่ยวเมืองไทย ทั้งเอ็กซ์แพทและนักท่องเที่ยวทั่วไป ล้วนชื่นชอบความสวยงามแบบเรียบง่ายและคุณภาพของสินค้าไทยกันทั้งนั้น เช่น หลังคามุงกระเบื้องอย่างได้สัดส่วนของวัดวาอาราม ผ้าห่มเนื้อไหมสีสันสดใส พระพุทธรูปองค์สูงดูเป็นสง่า หรือจะเป็นหมอนอิงทรงสามเหลี่ยมก็ตาม ทั้งหมดล้วนเปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์ของความเป็นไทยทั้งสิ้น เป็นสไตล์ที่ออกแนวสงบเสงี่ยมเจียมตัว แต่ก็มีสีสันสดใส และแลดูมีสง่าราศี เป็นความงามที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมและมีความเป็นไทยอย่างแท้จริง
You see, it isn’t just the prices that get my mouth watering. It’s the products themselves. All manner of handicrafts to furnish an English house in Thai style. So many farang visitors to Thailand , ex-pat or tourist come to love the simple beauty and quality of Thai goods. Like the symmetrically terraced terracotta roof of a temple, a colourful silken throw, an elegant tall image of the Lord Buddha or a triangular bolster cushion express a style that is uniquely Thai. It is understated but colourful, modest yet elegant. Cultured beauty. Khwam pen Thai.
ประเทศไทยนับว่าเป็นแหล่งที่มาของหัตถศิลป์ฝีมือเยี่ยมแห่งหนึ่ง กับความรักที่มีต่องานหัตถกรรม ความชำนาญในการใช้มือสร้างสรรค์งานศิลปะ รวมไปถึงวัสดุทางธรรมชาติที่นำมาใช้ ตั้งแต่ไม้สักไปจนถึงโลหะ ก้อนหิน และผ้าไหม ล้วนเป็นส่วนประกอบที่ทำให้ผลงานมีความเป็นไทยอย่างเปี่ยมล้น จตุจักรเป็นแหล่งที่นำความคิดสร้างสรรค์ของช่างฝีมือชาวไทยมาเจอกันกับผู้ซื้อที่ชื่นชมและเห็นคุณค่าของศิลปะนั้นๆ ผมว่าคุ้มค่ามากเลยทีเดียว กับการที่ต้องทนร้อนและเหนียวเหนอะหนะเพียงไม่กี่ชั่วโมงในตลาดนัดจตุจักร (และทุกตลาดนัดในเมืองไทย!) จริงๆนะครับ ผมว่าฝรั่งคนไหนก็ไม่ควรพลาด เพราะที่นี่นับว่าเป็นแหล่งเด็ดดังของทั้งรูปและกลิ่น ท่ามกลางความกระตือรือร้นของทั้งผู้ขาย และนักช็อปตัวยงที่กำลังมองหาข้าวของสวยๆงามๆในราคาแสนถูก บอกได้เลยว่ามันให้ความรู้สึกที่แตกต่าง ตื่นเต้น ท้าทาย และมันคือ ‘อย่างอื่น’ ในสายตาฝรั่งจริงๆ
นอกเหนือจากความตื่นตาตื่นใจกับข้าวของสารพัดสารพัน คุณยังจะได้มีโอกาสพูดคุยกับชาวไทยพื้นบ้านซื่อๆ อัธยาศัยดี ที่ภูมิใจนำเสนอผลงานและความมีพรสวรรค์ของเขา และยินยอมที่จะให้คุณเจรจาต่อรองราคาโดยดี ถ้าคุณคุยกับเขาดีๆ คุณอาจจะได้ส่วนลดมากกว่าที่คุณคาดเอาไว้ และถ้าคุณพูดไทยกับเขาด้วยละก็ คุณอาจจะได้รับส่วนลดเพิ่มมากขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่กว้างขึ้นด้วยนะครับ ในราคาซึ่งคนไทยกันเองยังต้องทึ่งในความสามารถในการต่อรองของคุณ! แต่คุณรู้มั้ยว่าราคาที่คุณได้รับที่นี่เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของราคาที่คุณจะซื้อของชิ้นเดียวกันได้ในอีกฟากโลก แถมที่นั่นคงไม่ยอมให้คุณต่อราคาเสียด้วย
As well as providing a feast for the eyes, it is also a great opportunity to talk to friendly, honest, common and garden Thai people who are proud to display their talents and negotiate a good price with you. Talk nicely and you may be able to negotiate a decent discount. Speak in Thai and you might get a better deal and a broader smile. You probably won’t be able to get the same rate as a Thai person. But these goods cost a fraction of what they would be worth in the west that you would struggle to find a better bargain.
ความเพลิดเพลินอีกหนึ่งประการของการเดินเล่นที่จตุจักรก็คือ มีสารพัดสารพันข้าวของเครื่องใช้ให้เลือกซื้อ เรียกได้ว่าสากกระเบือยันเรือรบเลยล่ะครับ และยังเปรียบเสมือนศูนย์กลางการแสดงความสามารถในงานฝีมือและสินค้าจากทั่วทุกภาค ทุกจังหวัด ทุกอำเภอและตำบลเล็กๆทั่วไทยเลยก็ว่าได้ ผมถึงชอบคอนเซ็ปต์ของ OTOP หรือ โครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์เป็นอันมาก (ถึงผมจะคิดว่าโอกาสในการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศยังมีมากกว่านี้ก็ตาม) คุณจะเห็นได้ถึงความรักและความภูมิใจในงานฝีมือที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยคนไทยจากแต่ละตำบล ไม่ว่าจะเป็นเพียงชามไม้ธรรมดาหรือผ้าทอเนื้อละเอียด สินค้าล่าสุดที่ผมซื้อมามีโถเบญจรงค์จากสมุทรสาคร ปลอกหมอนผ้าไหมจากกาฬสินธุ์ แจกันไม้จากลำปาง และเตาน้ำมันหอมศิลาดลจากเชียงใหม่ เป็นสินค้าที่ต้องตาต้องใจในแบบฉบับของตัวเองเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
Another delight for me is the sheer breadth of different types of products, which showcase skills from every far flung corner of the country. It’s one of the reasons I have always liked the OTOP concept (even though I think there is more scope to market it overseas). You can feel the love and pride which goes into the production, whether they are simple teak bowls or intricately woven fabrics. My recent purchases have included Benjarong pots from Samut Sakhon, silken pillow cases from Kalasin, wooden vases from Lampang and Celadon aromatherapy burners from Chiang Mai. All delightful, in their own unique way.
สิ่งหนึ่งและสิ่งเดียวที่ทำให้ผมหงุดหงิดใจในการมาเที่ยวเมืองไทยครั้งล่าสุดของผมนี้ก็คือ ผมไม่ได้เอากระเป๋าเดินทางที่ใหญ่กว่านี้มา และผมก็ไม่ได้มีเงินมากขนาดที่ใช้เท่าไรก็ไม่หมด! แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ อีกไม่นานผมก็คงได้กลับมาเที่ยวเมืองไทยอีก ความสวยงามของงานหัตถกรรมพื้นบ้านของไทยเป็นเพียงหนึ่งในเหตุผลอันยาวเหยียด ที่ทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอยากกลับมาเมืองไทยอีกครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อที่จะมาช็อปกันจนหมดเรี่ยวหมดแรง
My only frustrations are that on this recent visit I didn’t have a bigger luggage allowance and that my budget is not unlimited! But no doubt I will be visiting Thailand again before too long. The beauty of Thailand ’s natural handicrafts is but one of a long list of reasons that foreigners love to return to Thailand and shop until they drop, time and time again.