Sunday, June 16, 2013

That foreigners seeking cheap products in Thailand market town most fun.

ในช่วงหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ ผมสนุกกับกิจกรรมการช็อปในกรุงเทพฯเป็นอันมาก ผมซื้อของมาเยอะมากเลยครับ และเชื่อหรือไม่ว่าเงินที่ผมควักออกจากกระเป๋าสตางค์ไปเนี่ย ประมาณ 10% ของราคาสินค้าชิ้นเดียวกันที่ผมจะหาซื้อได้ในอังกฤษ หรือแม้แต่ในห้างหรูอย่างพารากอนและเอ็มโพเรียมเลยล่ะครับ! ให้ผมซื้อของเพิ่มอีก 10 เท่า อารมณ์อยากช็อปของผมก็คงยังไม่สิ้นสุด ก็เพราะผมง่วนอยู่กับการเดินซอกแซก สอดส่องมองหาสินค้าที่น่าสนใจในตลาดนัดจตุจักรนะสิครับ ถามได้ คุณก็น่าจะรู้ดีนี่นาว่าจตุจักรคือสวรรค์ของนักช็อปงานฝีมืออย่างผมเลย    


Over the past week I have enjoyed a mini-spending spree in Bangkok.  I bought so many things and you know what?  It cost me 10% of what I would have paid in England or indeed, the Emporium or Paragon.  And I could have bought ten times as much stuff and still been in the mood to buy more. Why?  Well because I spent my time mooching around Chatuchak.  And it really is heaven for the handicraft shopper like me.

ไม่ใช่เพียงราคาหรอกนะครับที่ทำให้ผมน้ำลายไหลและอยากได้อีก แต่สินค้าที่ได้มาในราคาดีๆแบบนี้นะสิ ซึ่งก็คือสินค้าหัตถกรรมประเภทต่างๆ ที่ทำให้ผมตกแต่งบ้านอังกฤษในสไตล์ไทยๆได้นั่นไง ที่ทำให้ผมอยากซื้ออยากได้ไปหมด ฝรั่งจำนวนมากที่ได้มาเที่ยวเมืองไทย ทั้งเอ็กซ์แพทและนักท่องเที่ยวทั่วไป ล้วนชื่นชอบความสวยงามแบบเรียบง่ายและคุณภาพของสินค้าไทยกันทั้งนั้น เช่น หลังคามุงกระเบื้องอย่างได้สัดส่วนของวัดวาอาราม ผ้าห่มเนื้อไหมสีสันสดใส พระพุทธรูปองค์สูงดูเป็นสง่า หรือจะเป็นหมอนอิงทรงสามเหลี่ยมก็ตาม ทั้งหมดล้วนเปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์ของความเป็นไทยทั้งสิ้น เป็นสไตล์ที่ออกแนวสงบเสงี่ยมเจียมตัว แต่ก็มีสีสันสดใส และแลดูมีสง่าราศี เป็นความงามที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมและมีความเป็นไทยอย่างแท้จริง       

You see, it isn’t just the prices that get my mouth watering.  It’s the products themselves.  All manner of handicrafts to furnish an English house in Thai style.  So many farang visitors to Thailand, ex-pat or tourist come to love the simple beauty and quality of Thai goods.   Like the symmetrically terraced terracotta roof of a temple, a colourful silken throw, an elegant tall image of the Lord Buddha or a triangular bolster cushion express a style that is uniquely Thai. It is understated but colourful, modest yet elegant. Cultured beauty. Khwam pen Thai.

ประเทศไทยนับว่าเป็นแหล่งที่มาของหัตถศิลป์ฝีมือเยี่ยมแห่งหนึ่ง กับความรักที่มีต่องานหัตถกรรม ความชำนาญในการใช้มือสร้างสรรค์งานศิลปะ รวมไปถึงวัสดุทางธรรมชาติที่นำมาใช้ ตั้งแต่ไม้สักไปจนถึงโลหะ ก้อนหิน และผ้าไหม ล้วนเป็นส่วนประกอบที่ทำให้ผลงานมีความเป็นไทยอย่างเปี่ยมล้น จตุจักรเป็นแหล่งที่นำความคิดสร้างสรรค์ของช่างฝีมือชาวไทยมาเจอกันกับผู้ซื้อที่ชื่นชมและเห็นคุณค่าของศิลปะนั้นๆ ผมว่าคุ้มค่ามากเลยทีเดียว กับการที่ต้องทนร้อนและเหนียวเหนอะหนะเพียงไม่กี่ชั่วโมงในตลาดนัดจตุจักร (และทุกตลาดนัดในเมืองไทย!) จริงๆนะครับ ผมว่าฝรั่งคนไหนก็ไม่ควรพลาด เพราะที่นี่นับว่าเป็นแหล่งเด็ดดังของทั้งรูปและกลิ่น ท่ามกลางความกระตือรือร้นของทั้งผู้ขาย และนักช็อปตัวยงที่กำลังมองหาข้าวของสวยๆงามๆในราคาแสนถูก บอกได้เลยว่ามันให้ความรู้สึกที่แตกต่าง ตื่นเต้น ท้าทาย และมันคือ อย่างอื่น ในสายตาฝรั่งจริงๆ      

Thailand has some of the best craftsmen and women you will ever meet.  Through love of their craft, the artful skill of their hands and a host of natural materials from teak to tin and stone to silk, they bring to life this concept of Thainess.  From the creative minds eye of the Thai to the admiring eyes of the buyer.   And so a few hot and sticky hours in Chatuchak (or indeed any market in Thailand) are an absolute must for farang visitors.  It is the most wonderful cornucopia of sights and smells, amidst a sea of keen sellers and shopaholics in search of sales and sing khong yang suay suay.  It feels different, exciting, adventurous, ‘other’.

นอกเหนือจากความตื่นตาตื่นใจกับข้าวของสารพัดสารพัน คุณยังจะได้มีโอกาสพูดคุยกับชาวไทยพื้นบ้านซื่อๆ อัธยาศัยดี ที่ภูมิใจนำเสนอผลงานและความมีพรสวรรค์ของเขา และยินยอมที่จะให้คุณเจรจาต่อรองราคาโดยดี ถ้าคุณคุยกับเขาดีๆ คุณอาจจะได้ส่วนลดมากกว่าที่คุณคาดเอาไว้ และถ้าคุณพูดไทยกับเขาด้วยละก็ คุณอาจจะได้รับส่วนลดเพิ่มมากขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่กว้างขึ้นด้วยนะครับ ในราคาซึ่งคนไทยกันเองยังต้องทึ่งในความสามารถในการต่อรองของคุณ! แต่คุณรู้มั้ยว่าราคาที่คุณได้รับที่นี่เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของราคาที่คุณจะซื้อของชิ้นเดียวกันได้ในอีกฟากโลก แถมที่นั่นคงไม่ยอมให้คุณต่อราคาเสียด้วย 

As well as providing a feast for the eyes, it is also a great opportunity to talk to friendly, honest, common and garden Thai people who are proud to display their talents and negotiate a good price with you.  Talk nicely and you may be able to negotiate a decent discount. Speak in Thai and you might get a better deal and a broader smile.  You probably won’t be able to get the same rate as a Thai person. But these goods cost a fraction of what they would be worth in the west that you would struggle to find a better bargain.

ความเพลิดเพลินอีกหนึ่งประการของการเดินเล่นที่จตุจักรก็คือ มีสารพัดสารพันข้าวของเครื่องใช้ให้เลือกซื้อ เรียกได้ว่าสากกระเบือยันเรือรบเลยล่ะครับ และยังเปรียบเสมือนศูนย์กลางการแสดงความสามารถในงานฝีมือและสินค้าจากทั่วทุกภาค ทุกจังหวัด ทุกอำเภอและตำบลเล็กๆทั่วไทยเลยก็ว่าได้ ผมถึงชอบคอนเซ็ปต์ของ OTOP หรือ โครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์เป็นอันมาก (ถึงผมจะคิดว่าโอกาสในการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศยังมีมากกว่านี้ก็ตาม) คุณจะเห็นได้ถึงความรักและความภูมิใจในงานฝีมือที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยคนไทยจากแต่ละตำบล ไม่ว่าจะเป็นเพียงชามไม้ธรรมดาหรือผ้าทอเนื้อละเอียด สินค้าล่าสุดที่ผมซื้อมามีโถเบญจรงค์จากสมุทรสาคร ปลอกหมอนผ้าไหมจากกาฬสินธุ์ แจกันไม้จากลำปาง และเตาน้ำมันหอมศิลาดลจากเชียงใหม่ เป็นสินค้าที่ต้องตาต้องใจในแบบฉบับของตัวเองเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

Another delight for me is the sheer breadth of different types of products, which showcase skills from every far flung corner of the country. It’s one of the reasons I have always liked the OTOP concept (even though I think there is more scope to market it overseas). You can feel the love and pride which goes into the production, whether they are simple teak bowls or intricately woven fabrics. My recent purchases have included Benjarong pots from Samut Sakhon, silken pillow cases from Kalasin, wooden vases from Lampang and Celadon aromatherapy burners from Chiang Mai.  All delightful, in their own unique way.

สิ่งหนึ่งและสิ่งเดียวที่ทำให้ผมหงุดหงิดใจในการมาเที่ยวเมืองไทยครั้งล่าสุดของผมนี้ก็คือ ผมไม่ได้เอากระเป๋าเดินทางที่ใหญ่กว่านี้มา และผมก็ไม่ได้มีเงินมากขนาดที่ใช้เท่าไรก็ไม่หมดแต่ไม่เป็นไรหรอกครับ อีกไม่นานผมก็คงได้กลับมาเที่ยวเมืองไทยอีก ความสวยงามของงานหัตถกรรมพื้นบ้านของไทยเป็นเพียงหนึ่งในเหตุผลอันยาวเหยียด ที่ทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอยากกลับมาเมืองไทยอีกครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อที่จะมาช็อปกันจนหมดเรี่ยวหมดแรง

My only frustrations are that on this recent visit I didn’t have a bigger luggage allowance and that my budget is not unlimited!  But no doubt I will be visiting Thailand again before too long. The beauty of Thailand’s natural handicrafts is but one of a long list of reasons that foreigners love to return to Thailand and shop until they drop, time and time again.

Monday, June 13, 2011

Chiang Mai Gallery



 

 

 

 


 

 

 

Chiang Mai Air pollution

A continuing environmental problem facing Chiang Mai is the incidence of air pollution which primarily occurs for a period of several weeks up to the beginning of April. This issue has been acknowledged for some time.




Back in 1996, speaking at the Fourth International Network for Environmental Compliance and Enforcement conference, which was held in Chiang Mai in that year, the then governor of Chiang Mai, Virachai Naewboonien invited guest speaker Dr. Jakapan Wongburanawatt, the Dean of the Social Science Faculty of Chiang Mai University at that time, to discuss the state of Chiang Mai air pollution efforts. Dr. Wongburanawatt stated that back in 1994, there were already increasing numbers of city residents coming to hospitals suffering from respiratory problems associated with city air pollution.

The Thailand Pollution Control Department of the Ministry of Natural Resources and Environment is actively engaged in finding solutions with public awareness campaigns and other initiatives. During this period, unlike the majority of the year, air quality in Chiang Mai often remains below recommended standards with fine-particle dust levels reaching twice the standard. The northern centre of the Meteorological Department has reported that low-pressure areas from China trap forest-fire smoke in the mountains along the Thai-Myanmar border. Chiang Mai’s air quality has been perceptibly deteriorating over the past ten years. This is being addressed by a number of initiatives, and in part, is often seen in cities with increasing economic growth at the expense of a strong corresponding programme to counteract the negative effects of environmental impact.


The city is often shrouded in smog during this period leading up to the rainy season. Fine particulate dust levels have sometimes been tested between 190 micrograms and 243 micrograms per cubic meter. (The standard acceptable level is 120 milligrams per cubic meter.) Amongst the minor sources of particulate matter pollution in Chiang Mai is the prevalence of burning in the city, with cremations, burning garbage, or vehicular emissions from poorly maintaineddiesel vehicles contributing. Added to these minor causes is dust raised during building and excavations.



A forest fire in the mountains west of Chiang Mai
in Mae Hong Son Province



Main cause
A forest fire in the mountains west of Chiang Mai in Mae Hong Son Province

The majority cause of air pollution however as proven by recorded satellite imagery
, is the age-old practice of burning-off undergrowth in forests in the mountainous regions, especially along the Thai-Myanmar border.
Chiang Mai’s problems are exacerbated by the fact that the city, like other areas such as Los Angeles and Salt Lake City, is located in a natural geographic bowl surrounded by mountains.


The result is a slowing of air movement, picking up more particulates as they are released by cars and burning trash. Also as a result of this inversion effect, as air rises in the bowl, it effectively turns over and settles back down over the city until a welcome wind shift or rainstorm cleans the air. The Thailand Pollution Control Department of the Ministry of Natural Resources and Environment is actively engaged in finding solutions to this hazardous problem and has been for several years as Chiang Mai's air quality index numbers are ever decreasing. Exacerbating this problem, one the most popular modes of convenient low-cost public transportation in Chiang Mai—as in the rest of Thailand—is provided by differently coloured pick-up trucks called 'Songtheouw'. Red Songtheouws (Red Cars or Rod Daeng) provide passenger requested journeys whilst other colours operate on fixed routes. People ride in the back of these trucks which are equipped with diesel engines.


The exhaust systems on all of these trucks are bored out in order to increase horse power which then increases the amount of carbon emissions and heavy metals which get ejected out of the back of the vehicles. As a result, the streets of Chiang Mai are increasingly difficult to ride on when using a motorcycle. It is a very common sight to see motorcyclists protecting their breathing passages as they follow these trucks. The same can be said from the famous Tuk tuks which are ubiquitous in Thailand. The city authorities are well aware of this issue and have enacted a campaign to replace all of the older, poorly tuned offending vehicles with modern yellow and blue metered passenger taxis. As these older, air quality offenders are slowly retired, it remains to be seen if the regulating bodies will be able to effect change in Chiang Mai in the face of resistance the drivers of these vehicles who have traditionally made their living in this way for many years. It should be said that Chiang Mai is not the only Thai city with this problem as Songtheow and Tuk Tuk is the major mode of low cost transportation in Thailand.


Unfortunately, because of Chiang Mai's inversion effect as the result of it being situated in a geographic bowl, the carbon emissions emitted from vehicles is made an even more troubling problem.



For several years, as Chiang Mai's air quality index has become more and more troublesome, in relation to the rest of the region, the recognition of the problem has been growing locally. Doctors in Chiang Mai have been noticing an increase in people coming to see them with upper respiratory difficulties. Chiang Mai has now enacted stringent regulation of emissions standards for all vehicles. Since 2008, police sometimes set up roadblocks to test exhaust emissions on the spot and officers will enact the law to ban offending vehicles as Chiang Mai continues to work actively towards a cleaner environment.